วิจารณ์ซีรีย์ครั้งแรก
The shannara
chronicles
สวัสดีคะ นี่เป็นการรีวิวซีรีย์ครั้งแรกเลย ตื่นเต้นๆ
ถ้าผิดพลาดตรงไหน หรือ ต้อง ปรับปรุงยังไง ก็ขอให้บอกเลยนะคะ และ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ฝากตัวด้วยคะ!! // โค้งงามๆ


ถ้าผิดพลาดตรงไหน หรือ ต้อง ปรับปรุงยังไง ก็ขอให้บอกเลยนะคะ และ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ฝากตัวด้วยคะ!! // โค้งงามๆ
"มิตรภาพ
การเสียสละ ความซื่อสัตย์ ความจงรักภักดี และ การรักษาสัญญา"
เกริ่นกันก่อน
ซีรีย์เรื่องนี้สร้างมาจากหนังสือนวนิยายขายดีของ
Terry brooks เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากสงครามล้างเผ่าพันธุ์
โดยที่เผ่าพันธุ์มนุษย์โดนทำลายไปเกือบหมด
และเผ่าพันธุ์เอลฟ์ก็เป็นเผ่าที่ชนะสงครามครั้งนี้
จึงได้สถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นผู้นำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาต้นเอลครีสคอยคุ้มครองเอลฟ์และชนเผ่าอื่นๆ แต่วันหนึ่งต้นเอลครีสเนี่ยเกิดป่วยเป็นโรคขึ้นมา จึงทำให้ตัวหลักทั้งสามของเรื่องคือ แอมเบอร์ลี , วิล โอมส์ฟอร์ด และ
เอรีเทรีย โรเวอร์ธรรมดาๆที่ชะตาต้องมาผกผันให้มาร่วมเดินทางด้วยกัน
เพื่อช่วยเหลือต้นเอลครีสที่กำลังป่วยอยู่
ให้หายจากโรคก่อนที่จะมีสงครามเกิดขึ้นอีกครั้ง
เนื้อเรื่อง
ด้วยความที่เป็นพล็อตเรื่องแบบนิยายแฟนตาซีที่ส่วนใหญ่ความดีจะต้องชนะความชั่ว
จึงทำให้ไม่ค่อยแปลกใจหรือลุ้นเท่าไหร่นัก ซึ่งบางครั้งก็เดาทางได้เองว่า
จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในแต่ละฉาก หรือ การแก้ปัญหาที่ดูจะง่ายเกินไป ในสองสามตอนแรกยังไม่ค่อยมีอะไรมากจนมาถึงตอนกลางๆที่เนื้อเรื่องดูจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
เริ่มมีการวางปม หรือพลิกมุม ปรากฏขึ้นมา และจะเผยออกมาในตอนท้ายๆของซีซั่นอีกที สิ่งที่เราชอบที่สุดคือ
การปะติดปะต่อเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างนุ่มนวล ไม่ตัดห้วนจนไม่รู้เรื่อง ถึงแม้จะมีสองถึงสามเหตุการณ์สลับไปมา การใช้แสงและสีในแต่ละฉาก
ที่จัดว่าสวยอยู่พอตัวเลย
ทางด้านการแต่งกายก็ดูเหมือนจะเป็นการแต่งที่ลงตัวระหว่างอนาคตและกลิ่นอายของความเป็นชนเผ่าต่างๆในเรื่อง
โดยเฉพาะชุดของแอมเบอร์ลี และสุดท้าย คือ การใช้ CG ที่สมจริง ไม่หลอกตา
เปรียบเหมือนหนังฮอลลีวู๊ดเรื่องหนึ่งเลย
ดูแล้วได้อะไร : มิตรภาพ
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีหนังหรือซีรีส์หลายๆเรื่องที่สอนเรื่อง
มิตรภาพ แต่เราว่าเรื่องนี้ก็สอนเรื่อง มิตรภาพ ได้ไม่แพ้กัน
ทำให้เราเข้าใจว่าแม้จะตกอยู่ในสภาวะยากลำบากแต่ถ้าอยู่กับเพื่อนก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกลัว
,การไม่ทิ้งเพื่อนไว้
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในภารกิจสำคัญก็จะกลับไปช่วยเสมอ (ตรงจุดๆนี้เราจะเห็นได้เกือบทั้งเรื่อง) หรือคำว่าเพื่อนที่ไม่จำเป็นต้องมีมากมาย
ขอแค่สักคนที่เราสามารถเชื่อใจและเล่าออกมาในทุกๆเรื่องได้
ดูแล้วได้อะไร : การเสียสละ
ถ้าพูดว่าเรื่องนี้นั้นสอนเรื่อง มิตรภาพ
ก็ต้องพูดด้วยว่า การเสียสละ ก็เช่นกัน ซึ่งมาในรูปแบบของการเสียสละเพื่อส่วนรวม โดยที่ยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อภารกิจครั้งสำคัญ
ดูแล้วได้อะไร : ความซื่อสัตย์ ความจงรักภักดี และ
การรักษาสัญญา
ถ้าเปิดเรื่องนี้ดูแล้ว เราจะเห็นตัวละครหนึ่งที่เป็นตัวละครที่จะซื่อสัตย์
และรักษาคำสัญญามากๆๆ ต่อให้นิสัยแย่แค่ไหนก็ตาม
จึงทำให้ตัวละครนี้ดูมีความน่าเชื่อถือขึ้นมา
หรือเรื่องความจงรักภักดีต่อเจ้านายของตัวเอง นิสัยเหล่านี้เป็นนิสัยที่ค่อยๆจะหายไปจากสังคมส่วนใหญ่แล้ว
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราได้จากเรื่องนี้คือควรจะรักษานิสัยตรงนี้เอาไว้ให้อยู่กับสังคมไปนานๆ
การแสดง
ด้วยความที่เป็นซีรีส์ของ MTV จึงทำให้นักแสดงหลักๆหน้าตาดีกันทู้กๆๆๆๆๆคน
เราอิงจาก Teen Wolfนะ ไม่เชื่อต้องไปดูเอง โดยตอนนี้จะขอพูดถึง Poppy Drayton แสดงเป็นแอมเบอร์ลี
เจ้าหญิงเอลฟ์ภายในเรื่อง ความคิดเห็นเรานั้น Poppy ยังไม่สามารถทำให้เราเชื่อได้ว่านี่คือเจ้าหญิง
เป็นการแสดงที่ยังดูไม่มีพลังมากพอเท่าไหร่นัก
ทั้งที่คิดว่าบทนั้นจะส่งนักแสดงพอตัวเลย เวลาบทจะต้องน่าสงสาร
ก็กลับรู้สึกเฉยๆ หรือ บทที่จะแสดงความกล้า ก็ดูยังไม่สุด และ ขาดเสน่ห์ไปในบางครั้ง
จึงทำให้โดน เอริเทรีย แสดงโดย Ivana Baquero จากเรื่อง Pan's Labyrinth กลบไปซะหมด โดยส่วนตัวแล้ว
เราชอบทั้งตัวบทและการแสดงของ Ivana มากๆ Ivana ทำให้เรามีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละคร เมื่อมาบทเศร้า
ก็เศร้าตาม บทจะแสดงความกล้า ก็ทำให้เรานับถือในความกล้าตรงนั้น อวยไปไหมๆๆ
ด้วยตัวบทที่ส่งบวกกับการแสดงของ Ivana ด้วยแล้วนี่ถือว่าผ่านฉลุยเลย สุดท้ายคือ วิล โอมส์ฟอร์ด แสดงโดย Austin Butler จากเรื่อง The Carrie Diaries หนึ่งในตัวสำคัญของเรื่อง การแสดงของ austin สำหรับเราแล้วถือว่าโอเคเลย
แต่ยังธรรมดาไปในบางครั้ง ไม่ค่อยน่าดึงดูดเท่าไหร่ แต่เราว่า Austin นี่แหละ เหมาะกับบทนี้แล้ว ถ้าเอาคนอื่นมาเล่นๆก็คงแปลกๆไปอีกทั้งในซีรีส์เรื่องนี้ยังมีนักแสดงจากเรื่อง Lord of the rings อย่าง John Rhys-Davies หรือจากเรื่อง The Hobbit อย่าง Manu Bennett ด้วย
โดยส่วนตัวแล้ว
ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่ดูฆ่าเวลาได้ ดูแล้วก็คุ้มที่ได้ดู
แต่ถ้าถามว่าห้ามพลาดไหมก็คงจะไม่ถึงขนาดนั้นอีก แต่ถ้าดูแล้วก็เหมือนหยุดไม่ได้อีกละ
ต้องดูให้จบ เอ๊ะ !เข้าใจยากจริงๆ
สำหรับคะแนนของซีรีย์เรื่องนี้ คือ 7/10
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมากนะคะ ขอบคุณคะ
และท้ายสุด คือ ตัวอย่างซีรีส์จ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น